ฟุตบอลต่างประเทศ เทพแห่งความพยายาม เทพแห่งการต่อสู้ ผู้ไม่เคยย่อท้อ Dirk Kuyt

ฟุตบอลต่างประเทศ เทพแห่งความพยายาม เทพแห่งการต่อสู้ สู้จนหยดสุดท้าย Dirk Kuyt

ฟุตบอลต่างประเทศ หากจะพูดถึงนักฟุตบอลสักคน ที่เป็นเทพแห่งความขยัน พยายาม อดทน ทำงานหนัก ไม่เคยย่อท้อ ฝีเท้าอาจจะไม่ได้ดีอะไรมาก แต่ก็ไม่ใช่ใครที่จะสามารถเอาชนะเขาง่ายๆ จิตใจดั่งหลุดมาจาก นิยายหรือภาพยนต์นักรบกรีก ดุดันในเกมรุก ขยันลงมาช่วยรับ ยิงก็ได้ กระชากก็ดี บทความกีฬาที่น่าสนใจ

ชื่อหนึ่งเลยที่เชื่อว่าไม่มีใครปฏิเสธ ชื่อนั้นก็คือ Dirk Kuyt นักเตะทีมชาติฮอลแลนด์ ที่มาติดทีมชาติตอนอายุเข้าสู่กลางชีวิตค้าแข้ง สมัยวัยรุ่นก็ไม่ได้ฝีเท้าเตะตาอะไรมาก แต่ด้วยผลงาน กับคุณประโยชน์ที่มีล้นเหลือ ในที่สุดก็มีชื่อเขาติดอยู่ในทีมชาติฮอลแลนด์ นักเตะรายนี้ สำหรับผมแล้วไม่ได้มีพรสวรรค์ ฟุตบอลต่างประเทศ

แต่ถ้าถามว่าพรสวรรค์เขาคืออะเไร พรสวรรค์เขาก็คือพรแสวงนั่นเอง การก้มหน้าก้มตาเล่น ด้วยความอดทน ไม่ย่อท้อ เลือดนักสู้ จนวินาทีสุดท้าย เพราะครอบครัวเขา เกิดมาจากครอบครัวที่ยากจน และ ยากลำบากระดับหนึ่ง การมีเลือดนักสู้จึงเป็นสิ่งสำคัญ ผมเคยอดสงสัยไม่ได้ว่า ทำไมนักเตะแบบเขาถึงสู้ยังกับไปทำสงคราม ในทุกนัดที่ลงเล่น ฟุตบอลต่างประเทศ

ที่สำคัญมีสปิริตสูง ไม่เคยมีนอกเกมส์ ไม่เคยมีเรื่องราว แต่ก็พร้อมงัดกับทุกคน กับใครก็ตามที่มาเอาเปรียบเขา หรือ พยายามข่มเขาในสนาม แต่ Kuyt สู้จนอีกฝ่ายมักจะยอมถอยร่น และหงอไปเอง ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเก่งกาจมาจากไหน ก้าวร้าวขนาดไหน ดุดันปานไหน ก็ไม่เคยเกินความย่อท้อของเขา ฟุตบอลต่างประเทศ

ตัวเขาได้สูญเสียพ่อจากโรคมะเร็ง และเขาเป็นคนรักครอบครัว รวมถึงเคารพรักในตัวพ่อเขา ที่เปรียบเสมือนแม่พิมพ์ของเขายังไงยังงั้น เพราะเขามักกล่าวว่า คุณพ่อมีความขยัน และต่อสู้ชีวิตมาโดยตลอด ซึ่งเขาก็ได้แรงบันดาลใจ รวมทั้งความที่อยากให้ครอบครัวไม่เหนื่อยยาก เขาจึงเข้มแข็งมาก เพื่อลุกขึ้นสู้เพื่ออนาคตที่ดีกว่า

นักเตะบางคนชีวิตไม่ได้ลำบาก แต่ด้วยความสามารถ ในความพยายามนี่แหละ ที่ทำให้เขามีทุกวันนี้ได้ “ผมรู้ว่าผมเป็นนักเตะที่พอใช้ได้ แต่ผมก็ไม่ได้คาดคิดว่านี่จะเป็นเส้นทางของผม” “สมัยเด็กๆ ผมชอบเอซี มิลานมาก พวกเขาคว้าแชมป์ทุกอย่างด้วย

นักเตะชาวดัตช์เก่งๆ กุลลิท Ruud Gullit , ฟาน บาสเท่น marco van basten – manager ,แฟรงค์ ไรจ์การ์ด ปัจจุบันเป็นโค้ช แต่ผมก็รู้เสมอว่า ผมคงไม่ได้ยอดเยี่ยมขนาดนั้น” “ดูอย่าง (โรบิน) ฟาน เพอร์ซี (โรบิน ฟัน แปร์ซี ปัจจุบัน สิ้นสุดการค้าแข้ง) เขาอาจจะไม่เก่งเท่าครัฟฟ์ แต่เขาเป็นนักเตะแบบที่นักเตะดัตช์ควรมี เขามีทักษะและพรสวรรค์ แต่สำหรับผมมันไม่ใช่” ฟุตบอลต่างประเทศ

“ผมบอกพ่อว่าผมอยากจะเป็นเหมือนเขา เป็นชาวประมง แต่ตอนผมอายุ 11 พ่อบอกผมว่า ควรมีชีวิตบนบก หรือแผ่นดินเสีย เป็นนักฟุตบอลให้ได้ เขาชี้แนะแนวทางว่า ผมต้องตัดสินใจชีวิตตรงนี้” และเขาก็ทำได้ดีจนเขาบอกว่า “มีโค้ชและแมวมองมาดูผมอยู่หลายครั้ง” “แต่มีแค่ทีมเดียวที่อยู่ในฝันที่ผมอยากไปเล่น (ลิเวอร์พูล) ลิเวอร์พูล 2021 และถ้าสโมสรแห่งนั้นต้องการผม ผมก็จะไป”  นี่คือคำพูดที่เขาให้สัมภาษณ์ และในที่สุดฝันเขาก็เป็นจริง

“กองหน้าตัวรับ” คำๆนี้เมื่อย้อนกลับไป อาจฟังดูแปลก แต่เจ้าตัวก็แสดงไสตล์หนึ่งที่ทำให้เป็นที่นิยมในปัจจุบัน นั่นคือการเล่นเกมรับในแดนหน้า ประโยชน์ของผู้เล่นแบบนี้ก็คือ หากกองหลังไม่ได้มีทักษะ หรือ การถ่ายบอลที่ทำให้คนแบบเขาหัวหมุน รับรองว่าเมื่อเจอเพรสซิ่งแบบนี้

ต้องมีร้อนรน และอาจจะเล่นผิดพลาดได้เองอย่างมาก ซึ่งลองนึกภาพตาม ว่าถ้ามีนักเตะแบบ Kuyt เล่นระบบ 4-3-3 แล้วสามคนด้านหน้า คอยวิ่งใส่ ดักให้กองหลังฝ่ายตรงข้ามเล่นยาก คุณลองนึกภาพตาม จะเล่นได้ยากมากแค่ไหน ซึ่งถ้าพลาดมาเมื่อไรก็อาจโดนนักเตะดาวขยันแบบเขา ลงโทษจนขาดความมั่นใจไปเลย

ซึ่งมันก็เคยเกิดขึ้นประจำ ไอ้จุดเด่นนี้แหละที่เขาทำตั้งแต่ สมัยอยู่ Feyenoord Rotterdam จนสุดท้ายไสตล์ของเขา มาแจ้งเกิด ทำให้แฟนบอลหงส์แดงรักเขามากมาย เขาซื้อคนด้วยใจ มากกว่าฝีเท้า จากบทสัมภาษณ์ เราจะเห็นได้ว่าเขาเจียมตัว ถ่อมตัวมาก เขาบอกว่าเขาแค่พอใช้ได้ ดังนั้นมีแค่จิตใจเท่านั้น ที่ทดแทนสิ่งที่เขาขาดไปได้

เตะฟุตบอลมาตลอดทั้งที่รู้ว่าตนเองธรรมดา สู้สุดใจเสมอไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ มันช่างงดงามเหลือเกิน ว่าชีวิตคนเราสำเร็จได้ มันมาจากที่ใจก่อน ไม่ใช่แค่ความสามารถ ตัวของเขาพิสูจน์ให้โลกเห็นแล้ว ว่าไม่เก่งแต่ประสบความสำเร็จได้ เป็นอย่างไร น่ายินดีมากมายจริงๆ ที่พ่อของเขาได้ยินดีกับความสำเร็จเขา ก่อนจะจากไป

ตัวจริงเขาก็ยิ้มเสมอที่จะรับหน้าที่ สำรองเขาก้ยินดีที่จะลงไปทำตามกุนซือ อย่างเคร่งครัด อย่างมีวินัย และเลือดนักสู้ของพ่อ ที่ลงไปในสนาม ทุกวันตลอดอาชีพการค้าแข้ง หากจะบอกว่าเขาคล้าย โรนัลโด้ ก็ได้นะแค่เขาไม่ได้มีพรสวรรค์เท่าโรนัลโด้ เท่านั้นเอง แต่ในทางระเบียบวินัย เขาทำได้ละม้าย คล้ายคลึงจริงๆ

หรือบางทีก้อาจจะใจสู้กว่าอีกด้วยซ้ำ เพราะความสามารถเป็นรองกว่า ความพยายาม จึงจำเป้นต้องมีทวีคูณ คุรลองมองดูสถิติของเขาแล้วเรามาพิจารณากันต่อ

ลีกฮอลแลนด์ เอเรดิวิซี่ 

ปี                     จำนวนนัด            ประตู               แอสซิสต์               ใบเหลือง        ใบแดง
2016-17                     31                    12                        4                             2                   0
2015-16                     32                    19                        3                             5                   0

ซือเปร์ลีก

ปี                      จำนวนนัด             ประตู              แอสซิสต์              ใบเหลือง        ใบแดง
2014-15                     32                      8                        0                             3                   0

บอลโลก
ปี                      จำนวนนัด              ประตู              แอสซิสต์              ใบเหลือง        ใบแดง
2014                         5                        0                        0                            0                   0

2010                         7                         1                         –                            1                    0
2006                        3                         0                        –                             1                    0

ที่เอาสถิติให้ท่าผู้อ่านดู เพื่อจะบอกว่า หากดูกันที่ตัวเลข เหมือนกับตัวเขาเล่นไม่ค่อยโดดเด่น แต่หลายคนไม่รู้ว่า การเล่นของเขามักมีประโยชน์ในรูปแบบทีม มีส่วนช่วยทีมเบื้องหลัง เหมือนคำพูดว่า ปิดทองหลังพระ นั่นหมายความว่า บางครั้งตัวเลขสถิติ ไม่ได้บ่งบอกถึงคุณภาพ กองหน้าได้ทั้งหมด

หากกองหน้าวัดกันที่แค่การทำประตูอย่างเดียว Kuyt คงไม่ถูกชายตามองจาก กุนซือ หรือผู้จัดการทีมที่เก่งๆหรอก แต่มันไม่ใช่เลย ในสายตากุนซือเกือบทุกคนที่เคยร่วมงานกับเขา ต่างรักเขา และเอาเขาเป็นส่วนสำคัญของทีมเสมอ แม้แต่แฟนบอลเขามีความซื่อแบบคนลูกทุ่ง ทำงานอย่างขยันขันแข็ง ไม่สนใจอะไรใคร

แฟนบอลทุกสโมสรที่เขาไป ไม่เคยมีการปฏิเสธ หรือว่าด่าทอเขาเลย มีแต่เคารพยกย่อง แม้กระทั่งเพื่อนร่วมทีมถึงจะอีโก้สูงแค่ไหน หรือเก่งแค่ไหน ก็ไม่กล้าที่จะดูถูกหรือลดคุณค่าเขาได้เลย เพราะเขาเห้นคุณค่าในตัวเอง โดยมีครอบครัวเป็นแรงบันดาลใจที่แรงกล้า เขามีไฟตลอดเวลา มีเชื้อเพลิงที่พร้อมเผาไหม้ในทุกวัน

ฟุตบอลต่างประเทศ สุดท้ายนี้บทความนี้ก็ขออุทิศให้ คุณพ่อของเขา ที่เปรียบเสมือน ยอดนักรบในคราบชาวประมง การทำงานหนกัจนกระทั่งลูกชาย มองพ่อของตนเป็นแม่แบบ ที่ฝันอยากเป็นเยี่ยงอย่างตาม มันต้องแข็งแกร่งขนาดไหน มีความเป็นผู้นำขนาดไหน มันเกินที่จะอธิบายได้เป็นตัวหนังสือ 

แต่ที่รับรู้ได้คือ เขาเดินทางเส้นนี้ตามรอยพ่อเขา ทุกกระเบียดนิ้ว และไม่มีความหวั่นไหวใดๆเลย ไม่ว่ารอบข้างจะเป้นอย่างไรก็ตาม เทพแห่งความพยายาม เป้นเหมือนตุ๊กตาล้มลุก ล้มแปบเดียว ก็ลุกได้เสมอ ครั้งนี้ไม่ได้เขาก็พร้อมโยนทิ้งควาามรู้สึกผิดหวัง และยืนขึ้นเริ่มต้นใหม่ได้เร็วมาก

ครั้งต่อไปยังไม่ได้ ก็จำทำมันจนได้ หากนกหวีดยังไม่เป่า เวลายังไม่หมด เลือดในกายยังไม่หยุดไหลเวียน นั่นเป็ยเครื่องหมายการมีชีวิต และบอกกับเราว่า ชีวิตวันต้องสู้ และมันจะหมดวาระการต่อสู้ เมื่อเราหมดลมหายใจแล้วเท่านั้น บางที Dirk Kuyt อาจไม่ได้คิดว่าตนเองเล่นฟุตบอล

แต่เขากำลังสู้ชีวิต ในโลกความจริงที่โหดร้าย ผ่านกีฬาที่เราเรียกว่า ฟุตบอลนั่นเอง เพราะฟุตบอลก็คือ สงคราม ฟุตบอลวันนี้ กับ ฟุตบอลใน ต่างประเทศ หรือ ฟุตบอลไทย ลีกไทย ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ก็ไม่ต่างกัน

                                                                                            “เด็กเนิร์ดสีส้ม”